ทีมเรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ ด้วยการเอาชนะแฟรงค์เฟิร์ต 2 ประตู ต่อ 0 เมื่อเช้านี้นี่เป็นยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพครั้งที่ 5 ในประวัติศาสตร์ของเรอัลมาดริด

และถ้วยรางวัลที่ 30 ของประธานาธิบดีฟลอเรนติโนที่ได้รับระหว่างดำรงตำแหน่งที่ทีมเรอัล มาดริด แผนผังข้อมูลเรอัลมาดริดมีอัตราการครองบอล 58% ในเกมนี้โดยยิงเข้ากรอบ 13 ครั้ง โดย 7 ครั้งอยู่ในกรอบและยิงได้ 2 ประตู

ขณะที่แฟรงค์เฟิร์ตทำได้เพียง 6 ครั้ง และเข้ากรอบ 3 ครั้งเรียกได้ว่าแชมป์เก่าของแชมป์ลีกฤดูกาลที่แล้ว ทีมเรอัล มาดริดอยู่ในเกมที่ปราบแชมป์ยูโรปาลีก แฟรงก์เฟิร์ตต่างฤดูกาลที่แล้วโดยสิ้นเชิง

สุดท้ายเรอัลมาดริดชนะ 2 ประตู ต่อ 0 และคว้าแชมป์แรกของฤดูกาลใหม่ นี่เป็นครั้งที่ 5 ที่ทีมเรอัล มาดริดคว้าแชมป์ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ และตอนนี้ก็รั้งอันดับ 1 กับมิลานและบาร์เซโลน่า ทีมเรอัล มาดริดได้เข้าร่วมยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ 8 ครั้ง และได้ 5 ครั้ง

ขณะที่มิลานได้ 5 ครั้งใน 7 ครั้ง และบาร์เซโลนาได้ 5 ครั้งใน 9 ครั้ง รองลงมาคือ ลิเวอร์พูลที่ได้แชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์ คัพ 4 สมัย และแอตเลติโกมาดริดที่ได้แชมป์ถึง 3 สมัย นี่เป็นถ้วยรางวัลที่ 30 ที่ฟลอเรนติโนได้รับระหว่างดำรงตำแหน่งประธานเรอัลมาดริด รองจากเบอร์นาเบวประธานในตำนานของเรอัลมาดริด ฟลอเรนติโนดำรงตำแหน่งประธาน สโมสรเรอัลมาดริด เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000 ถึงปี 2006 และในปี 2009

เขาได้ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรเรอัลมาดริดอีกครั้งและได้รับเลือกตั้งใหม่มาจนถึงทุกวันนี้ ระหว่างดำรงตำแหน่งของฟลอเรนติโน่ที่สโมสรเรอัลมาดริดคว้าแชมป์ลาลีกา 6 สมัย,แชมเปี้ยนส์ลีก 6 สมัย,โคปา เดล เรย์ 2 สมัย,แชมป์สแปนิช ซูเปอร์คัพ 6 สมัย,แชมป์ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ 5 สมัย

และแชมป์สโมสรโลก 4 สมัย แชมป์ 1 แชมป์โตโยต้าคัพ เมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งในปัจจุบันของทีมเรอัล มาดริด

หลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ประธานาธิบดีฟลอเรนติโน่ คาดว่าจะแซงหน้าประธานเบอร์นาเบว และกลายเป็นประธานที่มีแชมป์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมเรอัล มาดริด แต่หลังจบเกมฟลอเรนติโน่ประธานสโมสรกล่าวอย่างสุภาพว่า ถ้วยที่ 30 เป็นของผม ประธานเบอร์นาเบวคือผู้ก่อตั้งเรอัลมาดริด สถานะทางประวัติศาสตร์ของเขาอยู่เหนือตำแหน่งผมจะพยายามทำอย่างเขาแค่นั้น

ประธานฟลอเรนติโนกล่าวต่อว่าทีมเรอัล มาดริดชนะทุกนัดชิงชนะเลิศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเราต้องชินกับสิ่งนั้นเล่นกับคู่ต่อสู้ของเราและเอาชนะพวกเขา บรรยากาศในห้องแต่งตัวของเรอัล มาดริดนั้นยอดเยี่ยมและการจัดการของโค้ชอันเชล็อตติ นี่เป็นครั้งที่ 4 ของยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพที่อันเชล็อตติ โค้ชเรอัลมาดริด ชนะในอาชีพโค้ชของเขา

เขานำมิลานให้ชนะยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพ ในปี 2003 และ 2007 และนำเรอัลมาดริดคว้าแชมป์ในปี 2014 และปีนี้ปัจจุบันอันเชล็อตติเป็นโค้ชที่คว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนซูเปอร์คัพได้มากที่สุด

ขณะที่กวาร์ดิโอล่ารั้งอันดับ 2 ด้วย 3 แชมป์ อันเชล็อตติคว้าถ้วยรางวัลทั้งหมด 8 ถ้วยระหว่างช่วงการฝึกสอน 2 ครั้งกับเรอัลมาดริด ปัจจุบันเขาผูกติดอยู่กับโมโรนีในตำแหน่งที่สามในประวัติศาสตร์ของทีมเรอัล มาดริด โดยมีมูนอซ 14 คราวน์ และซีดาน 11 คราวน์ที่อยู่นำหน้าเขา

ข่าวเรอัลมาดริด ชนะเซลต้าและ ทีมเรอัล มาดริด ชนะต่อเนื่อง 2 ครั้ง

ข่าวเรอัลมาดริด เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันที่ 21 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น ในรอบที่ 2 ของลาลีกา ทีมเรอัล มาดริดเอาชนะเซลตา 4 ประตู ต่อ 1 ในเกมเยือน และคว้าชัยชนะลาลีกา 2 ครั้งติดต่อกันในฤดูกาลใหม่ เบนเซมายิงจุดโทษในนาทีที่ 13 อาส ปาสตีเสมอด้วยการเตะจุดโทษในนาทีที่ 23 โมดริชยิงระยะไกลในนาทีที่ 42 วินิซิอุสทำประตูเดียวในนาทีที่ 56 และบัลเบร์เด้ทำประตูในนาทีที่ 66 ในนาทีที่ 87 อาซาร์พลาดจุดโทษ

ในนาทีที่ 3 เซลต้าได้เตะฟรีคิกในแดนหน้าและคูร์ตัวส์ได้บอล ในนาทีที่ 5 บัลเบร์เดเตะบอลสูง ในนาทีที่ 8 เซลต้าเตะมุมแล้วพลาดยิงไกลจากนอกเขตโทษ ในนาทีที่ 10 เบนเซม่าจ่ายบอล และการทำประตูของวินิซิอุสถูกสกัดได้ และบอลออกเส้นหลัง

ในนาทีที่ 11 เรอัลมาดริดเตะมุม โจน อาเมนีเปิดบอลให้ อลาบาทำประตู และตาเปียทำแฮนด์บอลในเขตโทษ จากนั้นผู้ตัดสินเดินไปดู VAR รีเพลย์และได้จุดโทษ

และตาเปียได้ใบเหลือง นาทีที่ 13 เบนเซม่ายิงจุดโทษ เรอัลมาดริด ขึ้น 1 ประตู ต่อ 0 ในนาทีที่ 21 โมดริชวิ่งตรงไปหาวินิซิอุส แต่กองหลังเซลต้าหยุดบอลไว้ ในนาทีที่ 23 มาร์โลว์เปิดบอลจากทางขวา มิลิเตาทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าจุดโทษ จากนั้นอัสปาสก็ยิงจุดโทษเซลต้าตีเสมอ 1 ประตู ต่อ 1 ในนาทีที่ 27 วินิซิอุสจ่ายบอลจากด้วยส้นเท้า และเมนดี้จ่ายบอลจากทางซ้ายและถูกฝ่ายตรงข้ามสกัดไว้ได้ก่อน

ในนาทีที่ 33 บัลเบร์เด้จ่ายบอลผิดในแดนหลัง และเซลวีย์พลาดการยิงบอลไกล ในนาทีที่ 35 การ์แลนด์เปิดบอลจากทางซ้าย และปาเซียงเซียโหม่งบอลพลาด ในนาทีที่ 41 เบนเซม่าถูกสกัดบอล

นาทีที่ 42 อลาบาได้บอลจากทางซ้าย โมดริช เลี้ยงบอลในแนวนอนจากนอกเขตโทษและยิงบอลโลกระยะไกล ทีมเรอัล มาดริดขึ้นนำ 2 ประตู ต่อ 1 นาทีที่ 45 กามาแวงก้า และทาเปีย ล้มลงหลังจากปะทะกันในเขตโทษ

ผู้ตัดสินชี้ไม่มีฟาล์วจบครึ่งแรก สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด นำเซลต้าออก 2 ประตู ต่อ 1 ชั่วคราว ในช่วงเริ่มต้นครึ่งหลัง ในนาทีที่ 46 กามาแวงก้าบุกเข้าไปในแบ็คคอร์ทฝั่งคู่แข่ง และเกือบพลาดที่จะทำประตู ในนาทีที่ 49 วินิซิอุสได้ส่งบอลข้ามจากทางซ้าย และผู้รักษาประตูมาร์เช่ซินรับบอลและล้มลงกับพื้นแล้วกอดลูกบอลไว้ ในนาทีที่ 53 เมนดี้ ขว้างบอลจากแดนหลังและถูกฝ่ายตรงข้ามขโมยบอลไป

เรอัลมาดริดล่าสุด จบเกมทีมเรอัลมาดริดเอาชนะเซลต้า 4 ประตู ต่อ 1

เรอัลมาดริดล่าสุด จากนั้นปาเซียงเซียพลาดการทำประตูจากมุมทางด้านขวาของเขตโทษ ในนาทีที่ 56 โมดริช จ่ายบอลไกลจากแดนหลังอย่างแม่นยำ วินิซิอุสบุกเข้าเขตโทษเพียงคนเดียว ผ่านผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม และทำประตูเปล่าจากมุมทีมเรอัล มาดริดขึ้นนำ 3 ประตู ต่อ 1 ในนาทีที่ 63 อัสปาสเตะบอลจากมุมขวา และไอดูโหม่งบอลเพื่อทำประตูบอล แต่ลอยเหนือคานประตูเล็กน้อย ในนาทีที่ 66 โจน อาเมนีขโมยบอลในแดนหลังและส่งบอลให้เพพื่อนร่วมทีม

วินิซิอุสจ่ายบอลจากทางซ้าย และบัลเบร์เด้ เลี้ยงบอลมาทางด้านขวาของเขตโทษ และยิงบอลจากมุมไกลของประตู ทำให้ มาดริด ขึ้นนำ 4 ประตู ต่อ 1 ในนาทีที่ 68 อลาบา ได้รับใบเหลืองจากการทำฟาวล์กับอัสปาส นาทีที่ 74 กามาแวงก้าจ่ายบอล เบนเซม่าโหม่งบอล ในนาทีที่ 76 เปเรซส่งบอลจากทางขวาและเพื่อนร่วมทีมก็ยิงบอลสูง ในนาทีที่ 80 วินิซิอุสเลี้ยงบอลไปทางซ้ายเพื่อทะลุผ่านไปยังเขตโทษฝั่งตรงข้าม

และเผชิญหน้ากับผู้เล่นกองหลัง 3 คนเข้ามาสกัดบอล ในนาทีที่ 81 การทำประตูของการ์แลนด์ถูกสกัดไว้ได้ ในนาทีที่ 85 รูดิเกอร์เปิดบอลจากทางขวา เบนเซม่าโดนมาโรทำฟาวล์ในเขตโทษ และผู้ตัดสินเป่านกหวีดให้เตะจุดโทษ

ในนาทีที่ 87 เว็บไซต์หนึ่ง escapenews11 ได้ลงข่าวไฮไลท์บอลที่ผู้รักษาประตูฮาซาร์ดได้เซฟลูกโทษไว้ และลูกยิงเสริมของเบนเซมาก็ถูกเซฟไว้ได้อีกครั้ง ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 บัลเบร์เด้จ่ายตรง และอเซนซิโอพลาดการทำประตู จบเกมทีมเรอัลมาดริดเอาชนะเซลต้า 4 ประตู ต่อ 1

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงในการแข่งขันครั้งนี้ รายชื่อนักเตะของเซลต้า ได้แก่ มาร์เชซิน,มาร์โล,เอดู,นูเนส,การ์แลนด์,เซลวี่,เบลทราน,ทาปีเอเชีย,ออสการ์,เวก้า,อัสปาส,ปาเซียงเซีย และเปเรซ และรายชื่อ นักเตะเรอัลมาดริด ตัวจริง ได้แก่ กูร์ตัวส์, การ์บาฆาลมรูดิเกอร์,มิลิเตา,อลาบา,วาซเกซ,โมดริช,เซอร์บาญอส,โจนอาร์เมนี่,กามาแวงก้า,อเซนซิโอ,บัลเบร์เด้,เบนเซมา,วินิซิอุส และอาซาร์